วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

chill

Hallo....

ไม่ได้มา up blog ซะเนิ่นนานเลย เพราะว่ามีทั้งสอบทั้งโครงาน

ชีวิตวุ่นวายมากมาย ตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อนแล้ว(สบายใจ) โรงเรียนหยุดตั้ง 9 วัน

เดี๋ยวว่างๆ จะมาเล่าเรื่องสนุกๆให้ฟังน่ะ ยังไงก็เที่ยวปีใหม่ให้สนุกน่ะจ๊ะ เพื่อนๆ

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สงสัยไหม?


ทำไมของ1โหลต้องมี12ชิ้น

จำนวน 12 ในหนึ่งโหลของไทยนั้นสัมพันธ์กับระบบนับจำนวนของต่างชาติ ซึ่งมีคำว่า dozen (โดซเซ่น) หมายถึง 12 เช่นเดียวกัน ย้อนกลับไปหาที่มาคำว่า dozen ถือกำเนิดจากชาวสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นชนชาติแรกที่สร้างสัญลักษณ์การนับตัวเลขในชีวิตประจำวันด้วยการเปล่งเสียงเรียก ต่อมาในช่วง 3,100 ปี ก่อนคริสตกาล ......ชาวสุเมเรียนเขียนจำนวนตัวเลขเป็นรูปลิ่ม และสร้างระบบจำนวนขึ้นมา จากฐาน 60 ซึ่งง่ายต่อการหารด้วยจำนวนต่างๆ แบ่งเป็นแฟ็กเตอร์ (ส่วนที่คูณกันขึ้นเป็นจำนวน) ได้แก่ 2, 3, 4, 5, 6, 10, 12, 15, 20, และ 30 คำว่า dozen มีความหมายมาจาก "5 ส่วนของ 60" (12 คูณ 5 เท่ากับ 60) ภาษาละตินหมายถึง 12 ขณะที่ชาวโรมันถือว่าเลข 12 เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ จึงนำมาสร้างระบบการนับปี แบ่งให้มี 12 เดือน ส่วนพ่อค้าแม่ขายในในสมัยโบราณก็นิยมใช้ 12 ขายของ เพราะสะดวกและแยกส่วนได้ง่ายกว่าเลข 10 และใช้เรื่อยมาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า ในช่วงยุคกลางของอังกฤษ พ่อค้าขนมปังจะต้องถูกลงโทษหนัก หากตัดขายขนมปังในน้ำหนักที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่พ่อค้าขนมปังในยุคนั้นก็ไม่ได้มีความรู้นับจำนวนอะไร กลัวจะพลาดระหว่าง 11 ก้อนกับ 12 ก้อน จึงหันไปใช้วิธีกันเหนียว คือตัดขนมปัง 13 ก้อนเวลาที่จะขายขนมปังหนึ่งโหล กรณีนี้หนึ่งโหลเลยมี 13 ชิ้น ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ส่วนนักจิตวิทยาบางคนเคยทดสอบความแตกต่างระหว่างคนที่ชอบเลข 12 มากกว่าเลข 10 ว่าเป็นคนที่ยืดหยุ่นและอ่อนโยนกว่า อันนี้ก็ฟังไว้เล่นๆ ได้ ข้อมูลจากเว็บไซต์วิกิพีเดีย ระบุว่า โหลมาจากภาษาอังกฤษว่า Dozen รากศัพท์ภาษาละตินว่า duodecim เชื่อว่าเป็นการนับเลขรวมกลุ่มแบบแรกๆ เพราะตัวเลข 12 มาจากฐานการนับรอบดวงจันทร์โคจรรอบดวงอาทิตย์ รู้จักว่าเป็นระบบจำนวนฐานสิบสอง หรือทวาทิศนิยม (duodecimal system) 12 โหลเรียกว่า 1 กุรุส (a gross) การนับโหลสะดวกสบาย เพราะตัวคูณและพหุคูณคิดได้ง่าย เช่น 12 เท่ากับ 3 X 2 X 2 หรือ 360 เท่ากับ 20 X 3

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

CaMp Camp

Hello
พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง แก้มแดงๆ .....la la la
วันนี้อารมณ์ค่ะ ถึงงานจะเยอะมากแต่ก็ยังไหวค่ะ
ตอนี้ก็เปิดเทอมมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถปรับตัวได้ค่ะ
ในตอนปิดเทอมก้ไปทำอะไรมามากมายเลยค่ะ เช่น เข้าค่าย เรียนพิเศษ
เอาไว้ว่างๆจะเอารูปที่เข้าค่ายมาให้ดูแล้วก็มาเล่าให้ฟังกันน่ะค่ะ
วันนี้พอแค่นี้แล้วกันค่ะ BYe Bye!

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

บันทึกความดี

สวัสดีค่ะ
วันนี้ข้าพเจ้าจะมาบันทึกความดีน่ะค่ะว่าวันนี้เนี้ยข้าพเจ้า
ได้ทำอะไรบ้าง วันนี้ข้าพเจ้าได้ช่วยแม่กวาดบ้าน และเก็บจานกินข้าวแล้วก็สวดมนต์ค่ะซึ่งข้าพเจ้าได้สวดมนต์ทุกวันอยุ่แล้วค่ะ
นี่คือความดีของวันนี้ค่ะ
ปล. งานภาษาไทยค่ะ (เรื่องการบันทึกความดีลงสมุดเล่มม่วง)

NippoN


สวัสดีค่ะ

วันนี้ก็วันพฤหัสบดีค่ะ อีกไม่กี่วันก็จะได้พักแล้ววันนี้ข้พเจ้ามีสอบตั้งสองวิชายากมากเลย

แล้วพรุ่งนี้ก็ต้องสอบอีกสองวิชาน่าเบื่อจังเลยอ่ะ

เห็นเพื่อนๆเหนื่อยๆวันนี้ข้าพเจ้าก็จะเอารูปอาหารญี่ปุ่นมาให้ดูเล่นยั่วน้ำลายกันน่ะค่ะ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างยิ่งชาติหนึ่ง อาหารจะได้รับการตกแต่งอย่างประณีตสุดฝีมือ ที่เน้นที่สุดคือความสดของวัตถุดิบคู่การตกแต่งสวยงาม เพื่อคนกินรู้สึกว่า นอกจากรสชาติอาหาร ยังได้บริโภคความงามด้วย อิ่มท้องและอิ่มตา ทั้งนี้ ร้านอาหารส่วนใหญ่จะแขวนโคมแดงไว้ด้านหน้าร้าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การกินดื่มของญี่ปุ่น โดยอาหารที่นิยมในหมู่ลูกพระอาทิตย์ เป็นจำพวกปลา อาหารทะเลสดๆ อาหารประเภทปิ้ง หรือย่าง หรือทอด บะหมี่ ข้าวปั้น และต่อไปนี้คืออาหารหลักๆ ในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น
1.บะหมี่ วิธีการกินบะหมี่แบบญี่ปุ่นให้อร่อย จะใช้ตะเกียบคีบใส่ปากแล้วกลืนลงคอด้วยเสียงอันดังซู้ดซ้าด เป็นมารยาทที่ยอมรับกันทั่วไปของชาวญี่ปุ่น และเป็นการให้เกียรติแก่คนทำบะหมี่ด้วย บะหมี่ญี่ปุ่นมี 3 ชนิดหลักๆ คือ โซบะ อุด้ง และโซเม็ง
1.1 โซบะ ทำจากบักวีต เส้นมีสีน้ำตาล โดยทั่วไปโซบะเสิร์ฟพร้อมวาซาบิ หอมหัวใหญ่ฝาน น้ำจิ้มทำจากมิริน (สาเกหวาน) และคัตสึโอะบูชิ (เกล็ดปลาแห้ง) โซบะแบบนี้หากเสิร์ฟแบบเย็นบนซารุหรือถาดไม้ไผ่ เรียกว่า ซารุโซบะ เป็นอาหารยอดนิยมในหน้าร้อน
1.2 โซเม็ง เป็นบะหมี่นิยมทานในหน้าร้อนเช่นกัน ทำจากแป้งสาลี เส้นมีสีขาวนวลและบางกว่าโซบะ เสิร์ฟแบบโงะโมะคุ (ห้ารส) โดยโรยไข่เจียวซอย ไก่ และผักต่างๆ หรือเสิร์ฟแบบโงะมะดาเระ มีมะเขือยาว ปลา และชิโสะ เป็นเครื่องเคียง หรือเสิร์ฟแบบเย็นที่ใส่แต่ซอสถั่วเหลืองผสมน้ำมันงา จัดเป็นอาหารเบาๆ ช่วยให้สดชื่นในหน้าร้อน
1.3 อุด้ง อาหารยอดนิยมในหน้าหนาว ทำจากข้าวสาลี มีเส้นหนาถึงหนามาก และเหนียวนุ่ม เสิร์ฟพร้อมซุปซอสถั่วเหลืองร้อนๆ หอมหัวใหญ่ฝาน ผักชนิดต่างๆ และไข่ ให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดีในหน้าหนาว
2.ซูชิและซาซิมิ เป็นการผสมผสานของรสชาติและหน้าตาอาหาร ซูชิที่ดีต้องใช้ส่วนผสมคุณภาพดี ข้าวต้องผ่านการอบและออกรสเปรี้ยวพอดี ส่วนเครื่องโรยหน้าก็ต้องสด หากไปญี่ปุ่นแล้วไม่รู้จะกินอะไรดี ลองไปนั่งที่ไคเต็นซูชิยะ ซึ่งเป็นร้านที่เป็นเคาน์เตอร์ มีจานซูชิหน้าต่างๆ ไหลไปตามสายพาน ชอบใจอันไหนก็หยิบมาวางตรงหน้าได้เลย ทั้งราคาไม่แพงด้วย
3.นาเบโมโนะ เป็นอาหารประเภทหม้ออุ่นร้อนๆ ญี่ปุ่นมีอาหารจานร้อนในทุกพื้นที่ เป็นอาหารของฤดูหนาว
4อาหารน่ารับประทานมากขึ้น นอกจากนี้ผักดองยังช่วยล้างปากล้างคาวเพื่อลิ้มลองอาหารชนิดใหม่ เช่น ถ้าทานปลาดิบแล้วตามด้วยผักดองจะช่วยล้างความคาวออกจากปาก เพื่อหันไปลองเทมปุระกุ้งที่ชิมความหวานของกุ้งได้เต็มปากเต็มคำ เป็นต้น ส่วนผสมข.สึเกโมโนะ คือผักดอง อาหารญี่ปุ่นทุกมื้อจะเสิร์ฟพร้อมสึเกโมโนะ เป็นเครื่องเคียงเสริมหน้าตาและรสชาติให้องผักดองต่างไปตามฤดูกาลและหลากหลาย ที่นิยมกันทั่วไปคือ ผักกาดขาว ไผ่ หัวผักกาด แตงกวาญี่ปุ่น หัวไชเท้า ขิง มะเขือยาวญี่ปุ่น หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น
5.เบ็นโตะ อาหารจานด่วนที่จัดลงในกล่องสวยงาม ซื้อหาได้ตามร้านสะดวกซื้อ และถึงแม้จะเป็นอาหารราคาประหยัดแต่ก็จัดเรียงอย่างน่ารักงดงามในกล่องที่มีช่องเล็กช่องน้อยเพื่อวางอาหารและเครื่องเคียง บางกล่องเห็นแล้วชวนชมจนไม่อยากชิม
ที่มา: น้าชาติ รู้ไปโม้ด นสพ.ข่าวสดและhttp://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=64&post_id=1268405

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

TesT TEsT

สวัสดีค่ะ
ยิ่งใกล้สอบก็ยิ่งมีแต่สอบย่อยเก็บคะแนน งานก็เยอะแถมไม่สบายเสียงหายอีกต่างหาก เบื่อ เบื่อ
เสียงหายเลยคุยกับเพื่อนๆไม่ค่อยได้เซ็งเลย แล้วยังจะมีงานโครงงานอีกทำเท่าไรก็ไม่เสร็จสักที (จะยากไรมากมายเนี้ย ไม่เข้าใจ)
ตอนนี้ก็เลยมองยุ่งๆแต่ก็สู้ค่ะเพื่อคะแนน ฮาฮา วันนี้ก็เดิมๆค่ะไม่ค่อยมีอะไรแต่เมื่อวานมีนักเรียนนายร้อยมา
ก็เท่ห์มากมาย 55 ไปก่อนดีกว่า
ปล.ตั้งใจอ่านหนังสือน่ะค่ะ

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

Deeply Sadness

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาข้าพเจ้าก็ได้รับข่าวก่อนนอนที่ถือว่าเป็นข่าวร้ายข่าวหนึ่งเลยทีเดียว ข่าวนั้นก็คือ
ครูจุ๊กได้จากพวกเราไปแล้ว ในตอนแรกที่ข้าพเจ้าได้ยินก้รู้สึกตกใจ ใจหาย เป็นความรู้สึกที่งงมาก
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเราได้เสียแม่อีกคนหนึ่งของพวกเราชาวสธ.ไป ข้าพเจ้าก็ไม่รู้จะพูดความรู้สึกได้อย่างไร
แต่ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า ข้าพเจ้ารักแม่จุ๊กค่ะ และจะพยายามรักษาและทำหน้าที่สธ.ของพวกเราได้ดีที่สุดค่ะ
หลับให้สบายน่ะค่ะ
"เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป ไม่ว่าอีกนานแสนนาน
นานเท่าไรไม่ลืมเลือน ความทรงจำคอยย้ำและช่วยเตือน
เราต่างผูกพันด้วยรักตลอดไป"